🎓Job Classes
สายอาชีพในโลก RO ล้วนมีความสำคัญและทักษะที่จำเป็นต่อการออกล่ามอนสเตอร์แตกต่างกันไป
Last updated
สายอาชีพในโลก RO ล้วนมีความสำคัญและทักษะที่จำเป็นต่อการออกล่ามอนสเตอร์แตกต่างกันไป
Last updated
หากคุณเป็นมือใหม่ในโลก Ragnarok Online อาชีพ หรือ Job ต่าง ๆ คือสิ่งที่คุณควรเริ่มต้นเรียนรู้เป็นอย่างแรก เพื่อที่การเล่นของคุณ จะได้เป็นไปอย่างราบรื่น และหากการเลือกอาชีพของคุณเป็นไปอย่างถูกต้องตามความถนัดของคุณแล้วล่ะก็ จะทำให้คุณสามารถสนุกไปกับการใช้ชีวิตใน RO ได้ในระยะยาวอีกด้วย
ในที่นี้เราจะมาพูดถึงคลาสอาชีพหลัก ๆ กันก่อนได้แก่ Swordman (นักดาบ), Magician (นักเวท), Archer (นักธนู), Acolyte (นักบวชฝึกหัด), Merchant (พ่อค้า), และ Thief (โจร)
Swordman หรือ นักดาบ เป็นอาชีพพื้นฐานที่เล่นง่าย ไปได้ทุกที่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากอาชีพอะไรดี ในคลาสแรกจะสามารถถือได้ทั้งดาบมือเดียว + โล่ และดาบสองมือ
โดยสายดาบมือเดียว + โล่ จะเป็นสายที่เน้นความถึกทน เน้นแทงค์ให้เพื่อนตี ดังนั้น การอัปสเตตัสจึงมักจะเป็น STR + VIT และอัป DEX ไว้ประมาณ 20 - 40 เท่านั้นเพื่อให้พอตีมอนโดน
ส่วนสายดาบสองมือ จะเป็นสายที่เน้นดาเมจ สามารถลากมอนมารวมเพื่อกำจัดเองได้ โซโล่มอนเองได้ การอัปสเตตัสจึงมักจะเป็น STR + AGI และอัป DEX ไว้ประมาณ 40 หรือมากกว่าตามมอนที่เจอเมื่อเลเวลสูงขึ้น การหันไปอัป AGI แทนก็เพื่อใช้การหลบหลีกมอนสเตอร์ แทนที่การอัป VIT เพื่อรับดาเมจ ซึ่งการอัป AGI ก็จะทำให้ค่า ASPD หรือ Attack Speed เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถทำดาเมจได้รุนแรงและต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
Magician (Mage) หรือ นักเวท แน่นอนว่าเป็นสายโจมตีระยะไกลตามชื่อ ดังนั้น อาชีพนี้จึงค่อนข้างเปราะบาง มีเลือดน้อย แต่ก็แลกมาด้วยพลังโจมตีที่สูงมาก และสามารถเลือกร่ายเวทตามธาตุให้เหมาะกับมอนสเตอร์ที่ตนเองต้องเจอได้ด้วย INT+DEX คือสเตตัสมาตรฐานของนักเวท ส่วน AGI หรือ VIT นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณอยากได้เลือดเพิ่มเพื่อให้พอประทังชีวิตรอดได้ หรือหลบมอนสเตอร์ได้บ้างมากกว่ากัน
ส่วนอาวุธของนักเวทก็จะมีให้เลือกใช้สองแบบ ได้แก่ คทามือเดียว + โล่ สำหรับสายแบ่งรับแบ่งสู้ และคทาสองมือ สำหรับสายรีดดาเมจให้สูงที่สุด สายคทามือเดียวนั้นมักจะใช้ประดับ Clip แล้วใส่การ์ด Phen เพื่อให้สามารถร่ายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะการ์ด Phen มีคุณสมบัติที่ทำให้สามารถร่ายเวทต่อเนื่องได้แม้ถูกโจมตี (ปกติแล้ว หากถูกโจมตี เวทที่ร่ายอยู่จะหยุดชะงักทันที) แต่ก็แลกมาด้วยเวลาร่ายที่นานขึ้นเช่นกัน
ส่วนสายคทาสองมือ นอกจากการเน้นอัพ INT + DEX แล้ว มักจะอัป AGI กันมากกว่า ด้วยเหตุผลว่า หากหลบมอนได้ ก็จะไม่ถูกขัดจังหวะการร่าย แต่สายนี้จะเหมาะสำหรับการโซโล่มอนเองคนเดียว หากเน้นไปเป็นปาร์ตี้ การอัป VIT จะให้ผลดีกว่า เพราะอาชีพ Priest จะมี Suffragium ในการช่วยลดร่ายอยู่แล้ว หากมีมอนหลุดมาตีเราที่อยู่ในตี้ ก็จะยังพอทนดาเมจให้พรีสสามารถฮีลกลับมาได้ ดีกว่าโดนฮิตเดียวแล้วตายเสียค่าประสบการณ์
Archer หรือนักธนูที่เราคุ้นเคยกันดี ในโลก RO จะสามารถเปลี่ยนอาชีพไปได้สองสาย ได้แก่ Hunter ซึ่งเป็นสายโจมตี สามารถใช้ธนูต่อจาก Class 1 ได้เลย การอัปสเตตัสจะเน้นไปที่การยิงรัวและเร็ว AGI+DEX โดยเน้น DEX เป็นหลัก เนื่องจากนักธนูจะมีดาเมจเพิ่มขึ้นจากการอัป DEX ไม่เหมือนกับคลาสสายกายภาพอื่น ๆ ที่ใช้ STR เป็นค่าโจมตีหลัก ส่วน AGI นั้นจะช่วยให้สามารถหลบมอนได้ และเพิ่มค่าความเร็วในการโจมตี (ASPD) ให้สามารถยิงได้รัวขึ้น และเมื่อขึ้น Class 2 อย่าง Hunter ก็จะช่วยให้นกออกบ่อยขึ้นด้วย
ส่วนสายอาชีพที่ 2 อย่าง Bard และ Dancer เพศตัวละครจะมีผลในการเปลี่ยนอาชีพโดยตรง หากเราเลือกเล่นนักธนูเพศชาย เมื่อเปลี่ยนอาชีพจะกลายเป็น Bard หากเป็นนักธนูเพศหญิง จะกลายเป็น Dancer โดยอัตโนมัติ สองอาชีพนี้ สายที่นิยมมากที่สุดคือสายซัพพอร์ต เพื่อเน้นการบัฟปาร์ตี้เป็นหลัก อีกทั้งยังมีท่าบัฟคู่ ที่ต้องใช้ทั้ง Bard และ Dancer ในการร่ายสกิลพร้อมกันด้วย ซึ่งหากมาสายซัพพอร์ต การเก็บเลเวลนักธนูช่วงแรกก่อนเปลี่ยนอาชีพจะค่อนข้างลำบาก เนื่องจากจะไม่ได้อัป DEX เยอะเหมือนการเปลี่ยนเป็น Hunter แต่จะต้องแบ่งมาลง INT เป็นส่วนใหญ่ เพราะหลายสกิลใช้มานา (MP) จำนวนมาก และมีบางสกิลที่ใช้มานาอย่างต่อเนื่องด้วย และหากแต้มเหลือ ก็นำไปลง VIT เพื่อเพิ่มความถึกเหมือนสายเวทอย่าง Mage และ Priest ได้เลย
Acolyte หรืออาชีพนักบวชฝึกหัด ขึ้นชื่อว่านักบวช คาดว่าทุกคนก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นสายซัพพอร์ตหรือสายสนับสนุนเพื่อน แต่ยังมีอีกสายหนึ่งที่น่าสนใจคือสายโจมตี ซึ่งสามารถเล่นได้ทั้งสาย INT และสาย STR เนื่องจากสามารถแบ่งการอัปสเตตัสและสกิลได้หลายสาย จึงขอแบ่งเป็นหมวดหมู่ย่อย ๆ ได้แก่
สายสนับสนุน : สายนี้จะเน้นไปที่การอยู่กับปาร์ตี้หรือช่วยเพื่อนเป็นหลัก ดังนั้นการอัพสเตตัสจะเน้นไปที่ INT+DEX หรือ INT+DEX+VIT แน่นอนว่าต้องเน้น INT เป็นหลักเพราะต้องคอยใช้สกิลบัฟและฮีลให้เพื่อนอยู่ตลอด ซึ่งช่วงแรก ๆ อาจจะลำบากสักหน่อยในช่วง INT น้อย เพราะมานาฟื้นฟูไม่ทัน แต่พอเข้าช่วงใกล้เปลี่ยนเป็นพรีสก็จะเริ่มสบายขึ้นแล้ว
สายโจมตี STR : จะเป็นสายโจมตีที่เลือกอัปไปเป็น STR จะเน้นดาเมจกระบอง (Mace) เป็นหลัก เน้นใช้กระบองทุบ ส่วนสเตตัสรองก็จะเป็น VIT หรือ AGI ซึ่งส่วนใหญ่ สายนี้มักจะพัฒนาไปเป็น Monk ซึ่งเมื่อหลังจากเป็น Monk แล้ว ก็จะมีอาวุธอีก 1 ชนิดเข้ามาให้เลือกใช้ นั่นก็คือ สนับมือ (Knuckles) โดยอาชีพ Monk เป็นที่ขึ้นชื่อว่า สามารถทำดาเมจใส่มอนสเตอร์ประเภทบอสได้แรงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสกิลคอมโบ หรือ Asura Strike ที่ผู้เล่นไทยนิยมเรียกว่า "หมัดอาชูร่า" และเก่งใน PVP แบบ 1-1 ด้วย
สายโจมตี INT : จะเป็นสายโจมตีที่เลือกอัปไปเป็น INT เน้นดาเมจากการใช้สกิลโจมตีกับพวกผีดิบหรือ Undead และประเภท Demon เพราะตัว Acolyte เองมีสกิล Demon Bane ที่เพิ่มดาเมจเมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ประเภท Undead กับ Demon และสกิล Divine Protection ที่เพิ่มพลังป้องกันกับศัตรูประเภทดังกล่าว โดยสาย INT ก็จะต้องพึ่งสกิล Heal ไปโจมตีกับมอนสเตอร์ 2 ประเภทด้านบนเป็นหลัก โดยการกดปุ่ม Shift + คีย์ลัดสกิล Heal โดยเลือกเป้าหมายที่จะโจมตี ก็จะกลายเป็นการทำดาเมจให้กับมอนสเตอร์แทน (ใช้ได้กับมอนประเภท Undead เท่านั้น) และเมื่อเลเวล 20 ก็จะสามารถกลับเมือง Morroc ไปรับสกิลเสริมอย่าง Holy Light มาช่วยโจมตีได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เราสามารถโจมตีมอนสเตอร์ธาตุอื่นได้ ไม่จำกัดอยู่แค่เพียงสองประเภทนั้น (แต่ก็ยังโจมตีออกมาเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์อยู่นะ) ในการเปลี่ยนอาชีพ ส่วนใหญ่สาย INT จะเปลี่ยนเป็น Priest และใช้สกิลโจมตีหมู่อย่าง Magnus Exorcismus และสกิลโจมตีเดี่ยวอย่าง Turn Undead เป็นหัวใจหลักในการเก็บเลเวล ซึ่งถ้าหากใช้สกิล Magnus ในการเก็บเลเวลเป็นหลัก การอัปสเตตัสก็จะเป็น INT+DEX+VIT แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น Turn Undead แล้วล่ะก็ ค่า LUK จะมีผลต่อการใช้สกิลนี้โดยตรงด้วย ดังนั้น จะเลือกเล่นสายไหนอย่าลืมหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ แต่ถ้าพลาดไปแล้ว เราก็มีไอเท็มใบ Reskill ขายใน Cash Shop นะ
Merchant หรือพ่อค้า แบ่งสายง่าย ๆ แบบบ้าน ๆ คือ สายโจมตี และ สายหาเงิน เหตุผลที่แบ่งแบบนี้เพราะตัวอาชีพพ่อค้า ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปอาชีพ Blacksmith หรือ Alchemist ก็ยังสามารถทำได้ทั้งโจมตีและหาเงิน ซึ่งจะมีรายละเอียดยิบย่อยอีกมากมาย แต่ในที่นี้ เราจะมาอธิบายความแตกต่างของทั้งสองสายกันให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
สายโจมตี : พ่อค้าสายนี้จะสามารถหาเงินได้ด้วยการขายขยะที่ได้จากการโจมตีมอนสเตอร์ แล้วนำขยะหรือของแรร์ที่ได้มาไปขายต่ออีกที สกิลที่ช่วยโจมตีก็จะมี Mammonite ที่จำเป็นต้องอัปให้เต็ม 10 สำหรับสายนี้ เพื่อความแรงในการโจมตี แต่ก็จะแลกมาด้วยเงิน Zeny ที่เสียไปในการกดใช้สกิลแต่ละครั้งด้วยเช่นกัน และเมื่อ Job Level ถึง 20 แล้ว ให้กลับไปรับสกิลเสริมกับ NPC ที่เมือง Morroc เราจะได้สกิลอีกสองสกิลที่ช่วยในการโจมตีมา ได้แก่ Crazy Uproar ที่เป็นบัฟช่วยเพิ่ม STR และ Cart Revolution (ต้องการรถเข็นในการใช้สกิล) ซึ่งสกิลนี้จะเป็นการโจมตีหมู่โดยเอารถเข็นเข้ากระแทกกับกลุ่มมอน และยิ่งรถเข็นมีน้ำหนักมากเท่าไหร่ ดาเมจก็จะยิ่งแรงตาม ดังนั้น ทำให้รถเข็นน้ำหนักเต็มเข้าไว้ ก็จะลากมอนมาเก็บเลเวลได้ง่ายขึ้น เมื่อเปลี่ยนเป็น Blacksmith จะมีสกิลบัฟที่ช่วยในการโจมตีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Weapon Perfection, Power Thrust, Adrenaline Rush, Hammer Fall, และ Power Maximize และหากเปลี่ยนไปเป็น Alchemist ก็จะสามารถเลี้ยง Homunculus ให้ออกมาช่วยโจมตีเก็บเลเวล หรือเป็นสายปายาก็ยังได้ด้วยสกิล Acid Terror และ Demonstration ที่จะปาขวดกรดและปาไฟใส่มอนเพื่อทำดาเมจ
สายหาเงิน : สายนี้สามารถเริ่มหาเงินได้ตั้งแต่คลาสแรก ด้วยสกิล Discount (DC) และ Overcharge (OC) ซึ่งจะเป็นสกิล Passive ในการลดราคาของที่ซื้อจาก NPC ได้ในราคาถูกกว่าอาชีพอื่นทั้งหมด และสามารถทำเงินจากขายขยะด้วยสกิล OC ได้ และด้วยสกิล Vending สามารถเปิดร้านขายของในเมืองหรือตามหน้าดันเจี้ยนได้อีกด้วย เมื่อเปลี่ยนเป็น Blacksmith สายนี้ผันตัวไปเป็นสายทำอาวุธได้ ซึ่ง Blacksmith จะสามารถทำอาวุธได้ทุกประเภท รวมถึงใส่ธาตุเข้าไปในอาวุธได้ด้วย ทำให้สามารถโจมตีเป็นธาตุนั้น ๆ ออกมาได้เลย ซึ่งปกติแล้ว การโจมตีเป็นธาตุ มักจะเป็นนักเวทเสียมากกว่า เพียงแต่สายนี้จะไม่สามารถเก็บเลเวลด้วยตัวเองได้ เนื่องจากต้องนำค่าสเตตัสไปลงกับ DEX และ LUK เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตีบวกและทำอาวุธ เช่นเดียวกันกับ Alchemist เมื่อผันตัวไปเป็นสายหาเงิน ก็จะกลายเป็นสายทำยาออกมาขายแทน ซึ่งยาที่ทำออกมาโดย Alchemist นั้น จะมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูมากกว่า และมีน้ำหนักที่เบากว่ายาที่ซื้อจาก NPC เช่น Slim Orange Potion, Slim White Potion, ฯลฯ อีกทั้งยังสามารถทำยาเคลือบเกราะและอาวุธไม่ให้แตกเสียหายในการ PVP หรือ GVG ได้อีกด้วย
Thief หรือ โจร ถึงอาชีพนี้จะฟังดูเป็นมิจฉาชีพในชีวิตจริง แต่ในเกม อาชีพโจรจัดว่ามีความคล่องตัวในการเก็บเลเวลและต่อสู้แบบ 1-1 กับมอนสเตอร์สูง รวมทั้งสามารถโจมตีมอนสเตอร์ไปพร้อม ๆ กับขโมยไอเท็มจากพวกมันมาได้อีกด้วย การอัพสเตตัสตั้งแต่คลาสแรก จะต้องตัดสินใจเลยว่าจะเปลี่ยนเป็นคลาสไหนต่อ ระหว่าง Assassin หรือ Rogue เพราะถ้าต้องการจะเล่นเป็น Assassin อาวุธที่จะสามารถรีดประสิทธิภาพในการเล่นได้ดีที่สุดคือ Katar และค่าสเตตัสที่นิยมอัปกันคือ AGI + LUK และมี STR พอประมาณ โดยไม่ต้องอัพ DEX ให้มากมาย เพราะสาย Katar จะเน้นการตีติดคริติคอล (Critical) เป็นหลัก และเมื่อตีติดคริ ก็หมายความว่ามันตีโดนได้เองโดยไม่ต้องพึ่งค่า DEX
แต่ถ้าหากอยากเล่นสายมีดแล้วล่ะก็ Rogue คือสายอาชีพที่น่าสนใจ และสามารถรีดประสิทธิภาพการใช้มีดคู่ออกมาได้มากที่สุด ด้วยสกิล Sword Mastery ที่มีเพิ่มเข้ามาในคลาส และสามารถใช้ธนูได้ด้วยสกิล Passive อย่าง Vulture's Eye และ Double Strafe เหมือน Archer พ่วงเข้าไปด้วยการเป็นอาชีพตัวป่วนใน PVP กับสกิลการปลดอาวุธและปลดเกราะได้หมดทั้งตัว รวมทั้งสกิลสำคัญอย่าง Plagiarism ที่สามารถก๊อปปี้สกิลที่ถูกโจมตีใส่ ให้มาเป็นของตนเองได้ โดยเลเวลสูงสุดของสกิลที่จำได้ ขึ้นอยู่กับเลเวลสกิล Plagiarism ของเรา
หมายเหตุ : คำแนะนำเรื่องคลาสอาชีพต่าง ๆ ด้านบน เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น หากผู้เล่นสนใจอาชีพไหนหรือการเล่นแบบใดเป็นพิเศษ ขอแนะนำให้ทำการศึกษาอย่างถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจเปลี่ยนและอัปค่าสถานะรวมถึงค่าสกิล เนื่องจากการเปลี่ยนคลาส, ค่าสถานะ, และค่าสกิล เป็นสิ่งที่ไม่สามารถกู้คืนได้เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนหรืออัปไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับค่าสถานะและค่าสกิล หากผู้เล่นอัปผิด หรือต้องการเปลี่ยนสายการเล่น สามารถมองหาไอเท็มที่ชื่อ Reset Status Scroll และ Reset Skill Scroll ได้ในร้านค้า Cash Shop